12 August 2009

ประวัติความเป็นมา"วันแม่แห่งชาติ"

สวัสดีครับ..ทุกท่าน
วันนี้..คุณบอกรัก..แม่..หรือยังครับ?
ถ้า"ยัง"ก็รีบบอกซะนะครับ "ก่อนที่จะไม่มีแม่ให้เราบอกรัก"
แต่..คุณอย่าบอกรักแม่แค่ "วันนี้..วันเดียว"เท่านั้นนะครับ
คุณสามารถบอกรักได้ทุกวัน และอย่าบอกเพียงเพื่อต้องการสิ่งใดจากท่านมากกว่า "ความรัก" ที่กลั่นออกมาจากใจของคุณจริง ๆ อย่าบอกเพราะว่าคุณ "ต้องการสิ่งตอบแทน" ที่เป็นวัตถุสิ่งของ
จงบอกด้วย..ปาก และรักด้วย..ใจ
จงทำทุกอย่าง..เพื่อให้คนที่เราเรียกว่า"แม่" มีความสุขที่สุด
เพราะเมื่อคุณทำดังนั้นแล้ว คุณจึงเหมาะสมที่จะเป็น"ลูกที่ดี"ของแม่ ตลอดไป..!
"..พระคุณแม่..เลิศฟ้ามหาสมุทร
..พระคุณแม่..สูงสุดมหาศาล
..พระคุณแม่..เลิศหล้าสุธาธาร
..ใครจะปาน..แม่ฉัน..นั้นไม่มี"
...ครับ ที่อารัมภบทมานั้น ก็เพื่อเตือนสติลูก ๆ ทุกคนครับ ว่า"ไม่มีใครในโลกนี้รักเราเท่าแม่" แน่นอนครับ
วันนี้.."วันแม่แห่งชาติ" ก็ได้เวียนมาถึงอีกครั้งหนึ่ง จึงอยากจะขอนำประวัติของวันนี้ว่ามีความเป็นมาอย่างไรให้ท่านที่ยังไม่ทราบได้รับทราบกันนะครับ
..เราคนไทย โชคดีมากครับที่พอเกิดมาแล้วมี..แม่ผู้ประเสริฐ 2 คน ครับ นั่นคือ
1. แม่บังเกิดเกล้าของเราครับ
2. แม่ฟ้าหลวงของปวงชนชาวไทยเรา..สมเด็จพระราชินีนาถ นั่นเองครับ
เพราะฉะนั้น..วันแม่แห่งชาติ..นี้ จึงมีค่ามากมายต่อเราชาวไทยทั้งปวง จึงขอนำ"ประวัติวันแม่แห่งชาติ"มาเล่าสู่กันฟังนะครับ

วันแม่แห่งชาติ
ทุกวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี

..วันแม่แห่งชาติ หรือที่คนไทยทั่วไปนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า "วันแม่" ทุกคนรับทราบและซาบซึ้งกันดี เนื่องจากวันสำคัญนี้ตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถคือ วันที่ 12 สิงหาคม อันเป็นวันคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพและถือว่าเป็นวันแม่ของชาติด้วย

แต่เดิมนั้น วันแม่ของชาติได้กำหนดเอาไว้วันที่ 15 เมษายนของทุก ๆ ปี ทั้งนี้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีประกาศรับรอง เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2493 ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่ของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติผู้รับมอบหมายให้จัดงาน วันแม่ มาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2493 เป็นครั้งแรกเป็นต้นมานั้นได้รับความสำเร็จด้วยดี ด้วยประชาชนให้การสนับสนุนจนสามารถขยายขอบข่ายของงานให้กว้างขวางออกไป มีการจัดพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา การประกวดคำขวัญวันแม่ การประกวดแม่ของชาติ เพื่อให้เกียรติและตระหนักในความสำคัญของแม่ และเพื่อเพิ่มความสำคัญของวันแม่ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ด้วยเหตุนี้งานวันแม่จึงเป็นวันแม่ประจำปีของชาติตามประกาศของรัฐบาลฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม แต่โดยทั่วไปเรียกกันว่าวันแม่ของชาติ
ต่อมาถึง พ.ศ.2519 ทางราชการได้เปลี่ยนใหม่ให้ถือเอาวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ คือ วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ เริ่มในปี พ.ศ.2519 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
วันแม่แห่งชาติ เป็นวันที่ทางราชการกำหนดในวันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี และถือว่าเป็นวันสำคัญยิ่งของปวงชนชาวไทย โดยกำหนดให้ถือว่า "ดอกมะลิ" สีขาวบริสุทธิ์เป็นสัญลักษณ์ของความดีงามของแม่ผู้ให้กำเนิดแก่เรา

กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันแม่แห่งชาติ

1. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน
2. จัดกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับวันแม่ เช่น การจัดนิทรรศการ
3. จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศล เพื่อรำลึกถึงพระคุณของแม่
4. นำพวงมาลัยดอกมะลิไปกราบขอพรจากแม่


วันแม่ในประเทศต่าง ๆ

* อาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ นอร์เวย์
* 8 มีนาคม บัลแกเรีย, แอลเบเนีย
* อาทิตย์ที่สี่ในฤดูถือบวชเล็นท์ (มาเทอริง ซันเ ดย์) สหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์
* 21 มีนาคม (วันแรกของฤดูใบไม้ผลิ) จอร์แดน, ซีเรีย, เลบานอน, อียิปต์
* อาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคม โปรตุเกส, ลิทัวเนีย, สเปน, แอฟริกาใต้, ฮังการี
* 8 พฤษภาคม เกาหลีใต้ (วันผู้ปกครอง)
* 10 พฤษภาคม กาตาร์, ซาอุดีอาระเบีย, ประเทศส่วนใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้, บาห์เรน, ปากีสถาน, มาเลเซีย, เม็กซิโก, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อินเดีย, โอมาน
* อาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคม แคนาดา, สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน), สาธารณรัฐประชาชนจีน, ญี่ปุ่น, เดนมาร์ก, ตุรกี, นิวซีแลนด์, เนเธอร์แลนด์, บราซิล, เบลเยียม, เปรู, ฟินแลนด์, มอลตา, เยอรมนี, ลัตเวีย, สโลวาเกีย, สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, อิตาลี, เอสโตเนีย, ฮ่องกง
* 26 พฤษภาคม โปแลนด์
* 27 พฤษภาคม โบลิเวีย
อาทิตย์ที่สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม สาธารณรัฐโดมินิกัน, สวีเดน
อาทิตย์แรกของเดือนมิถุนายนหรือ อาทิตย์ที่สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม ฝรั่งเศส
* 12 สิงหาคม ไทย (วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ)
* 15 สิงหาคม (วันอัสสัมชัญ) คอสตาริกา, แอนท์เวิร์ป (เบลเยียม)
อาทิตย์ที่สองหรือสามของเดือนตุลาคม อาร์เจนตินา (Día de la Madre)
* 28 พฤศจิกายน รัสเซีย
* 8 ธันวาคม ปานามา
* 22 ธันวาคม อินโดนีเซีย


แหล่งอ้างอิง :
หนังสือ วันสำคัญของไทย โดย สมเจตน์ มุทิตากุล
หนังสือ ประวัติวันสำคัญที่ควรรู้จัก โดย วรนุช อุษณกร
หนังสือ วันสำคัญของไทย โดยธนากิต
หนังสือ วันสำคัญของไทย โดย สุชิราภรณ์ บริสุทธิ์

Link ที่เกี่ยวข้อง

* วันฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
* กลอนวันแม่

.................................

ก่อนจะจบเรื่องวันแม่ ขอฝากอะไร นิดหนึ่งนะครับ

"...คุณว่า....แปลกมั๊ย !!"

แปลกมั๊ย...วันเกิดเรา...เป็นวันที่พ่อแม่เราดีใจที่สุด?
แต่...เรากลับไปทานข้าวกับคนอื่น

แปลกมั๊ย...ที่คุณเลี้ยงข้าวเพื่อนตอนรับปริญญา?
แต่...คุณไม่ได้เลี้ยงข้าวคนที่ส่งคุณเรียนจนจบปริญญา

แปลกมั๊ย...ที่เรารักเพื่อนที่เคยเลี้ยงข้าวเราเพียง 1 มื้อ?
แต่...เรากลับไม่เคยส่งเงินให้กับคนที่เลี้ยงข้าวเรามา 20กว่าปี

แปลกมั๊ย...ที่เรารักใครบางคนที่ไม่กล้า แม้แต่จะจับกางเกงในของเรา?
แต่เรากลับเบื่อเสียงเตือนของคนที่ล้างก้นให้เราได้มากกว่า 3 ปี

แปลกมั๊ย...ที่เพื่อนโทรมาชวนเราเวลาไหนเราก็ออกไป?
แต่...พ่อแม่จะมาหาเรา...เรากลับบอกว่าไม่ว่าง

แปลกมั๊ย...ที่คุณทำอะไรได้ทุก ๆ อย่าง เพื่อใครบางคน?
แต่...คุณไม่เคยทำสิ่งที่พ่อแม่คุณแอบดีใจ

แปลกมั๊ย...ที่คุณต้องพูดจาเพราะ ๆ เพื่อให้เขายอมรับ?
แต่...คุณไม่เคยพูดเพราะกับพ่อแม่คุณเอง

แปลกมั๊ย...ที่คุณยังรอที่จะทำบุญกับท่าน?
ในวันที่ท่านไม่อยู่

วันนี้คุณคิดถึงผู้หญิงคนนี้รึยัง ?

0 comments:

Post a Comment